โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กุมภาพันธ์ 2557 16:57 น.
|
ความงดงามของท้องทะเลสวยใสที่เกาะห้อง
|
|
|
ไป “ทะเล” กันดีกว่า...
“ตะลอนเที่ยว”
ขอชวนมิตรรักนักเที่ยวทุกคน
เก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวทะเลให้ลั้นลา รับลมทะเลเย็นๆ เล่นน้ำทะเลสวยใส
หาความสุขสบายใจใส่ตัวกันดีกว่า
เพราะเห็นว่าช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองเราช่างอึมครึม ดูร้อนรุ่ม
แลแล้วน่ากลุ้มใจ ไม่รู้ว่าจะปะทุจุเดือดขึ้นมาเมื่อใด
เลยเกรงว่าถ้าเรามัวแต่เสพข่าวการเมืองอันดีเดือดมากเกินไป
อาจจะเกิดอาการจิตป่วยได้ จึงอยากชักชวนให้ไปเที่ยวทะเลกันดีกว่า
ไปเที่ยวทะเลทางใต้ ไปสัมผัสความงดงามของท้องทะเลอันดามันอันสวยใส
ซึ่งจังหวัดที่อยากชวนไปก็คือ “จ.กระบี่” เพราะที่นี่มีธรรมชาติของทะเลอันบริสุทธิ์
มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางทะเลให้เลือกเที่ยวหลากหลาย
และผู้คนที่เมืองกระบี่ก็น่ารักมีอัธยาศัยที่ดี
ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยมิตรไมตรี
กอรปกับการเดินทางมายังจ.กระบี่ก็แสนจะสะดวกสบาย
ซึ่งเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้
สายการบินราคาประหยัดอย่างนกแอร์ได้เปิดเที่ยวบินใหม่
พาบินตรงจากดอนเมืองมาสู่จ.กระบี่ แบบสบายๆ
มีหรือเราจะไม่รีบเก็บกระเป๋าพร้อมกับแบกกล้องคู่ใจ
มาตะลอนเที่ยวทะเลกระบี่ในวันฟ้าใส พาใจให้เบิกบานกันดีกว่า
|
|
มากราบไหว้ขอพรองค์เจ้าแม่กวนอิมที่วัดถ้ำเสือ
|
|
|
“ตะลอนเที่ยว” ขอพาเปิดฉากเที่ยวเมืองกระบี่ด้วยการไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย
กันที่ “วัดถ้ำเสือ” ที่นี่เป็นสำนักสงฆ์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของ
หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ ที่มีชื่อเสียง ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง
มีสถานที่ให้เลือกไปกราบไหว้ขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่มากมาย
เราได้เดินไปยังถ้ำด้านบนที่เมื่ออดีตว่ากันว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของเสือมาก่อน
จึงเป็นที่มาของชื่อวัดถ้ำเสือ
แต่ทุกวันนี้ไม่มีเสือในถ้ำแล้ว
จะมีก็แต่รูปปั้นเสือและมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้ได้กราบขอพรแทน
และมีพระบรมสารีริกธาตุให้กราบสักการะ
และเมื่อเดินเข้ามายังส่วนด้านในของวัดก็จะพบกับบันได
1,237 ขั้น ให้ได้เดินขึ้นเขาไป
เพื่อไปสักการะพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา แต่ถ้าใครไม่มีแรงเดินขึ้นบันได
ด้านล่างมีองค์เจ้าแม่กวนอิมให้ได้ไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตัวเอง
และภายในวัดยังมีพื้นที่ให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ มีสวนป่าอันรื่นรมย์
และมีฝูงลิงป่ามาอาศัยอยู่ ซึ่งต้องระมัดระวังเจ้าจ๋อพวกนี้สักหน่อย
เพราะชอบเข้ามาแย่งของจากนักท่องเที่ยว
|
|
ประติมากรรมปูดำ ด้านหลังมองเห็นเขาขนาบน้ำสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่
|
|
|
พอได้ไหว้พระทำบุญจนอิ่มใจแล้ว
เราออกเดินทางแวะไปชมสัญลักษณ์เมืองกระบี่กัน นั่นคือ “เขาขนาบน้ำ”
เป็นภูเขาหินปูนสองลูกตั้งสูงเด่นตระหง่านเป็นสง่าขนาบกับผืนน้ำ
แวดล้อมไปด้วยป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งสามารถนั่งเรือไปชมเขาขนาบน้ำใกล้ๆ
ได้ด้วย แต่เราไม่ได้ลงเรือไปชม ได้แค่ยืนถ่ายรูปดูอยู่ไกลๆ
ตรงจุดที่เป็นที่ตั้งของ
“ประติมากรรมปูดำ” เป็นรูปปั้นแม่ปูตัวใหญ่กับลูกๆ
ปู ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่เช่นกัน
|
|
มาเที่ยวเกาะโรสนั่งเรือหัวโถงชมธรรมชาติที่สวยงาม
|
|
|
จากนั้น “ตะลอนเที่ยว” ขอพาไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติอันน่าสนใจ
จัดว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของเมืองกระบี่
ที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักกัน ที่แห่งนี้คือ “เกาะกาโรส”
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก
ที่นี่มีจุดขายอยู่ที่การนั่งเรือหัวโทง
ซึ่งเป็นเรือท้องถิ่นที่ชาวบ้านเอาไว้ใช้งาน (หรือจะพายเรือคายัคก็ได้)
โดยจะมีชาวบ้านมาคอยพายเรือหัวโทงพาลัดเลาะไปตามแม่น้ำลำคลอง
และออกสู่ทะเลไปได้สัมผัสกับเทือกเขาหินปูนที่สวยงามและชื่นชมกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์
|
|
หน้าตาหุบเขาผีสองอารมณ์ที่เกาะกาโรส
|
|
|
เรือจะค่อยๆ
แล่นผ่านไปตามแนวป่าชายเลนที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้เป็นอย่างดี
ได้สัมผัสสายลมเย็นๆ ชื่นชมธรรมชาติที่สวยงาม
และได้ยลเทือกเขาหินปูนที่จะมีรูปร่างแปลกตาให้ชมมากมาย ไม่ว่าเป็น
หุบเขาผีสองอารมณ์ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนผี มีลูกตา มีจมูก มีปาก บางทีดูยิ้มบางทีดูโกรธ
หรือเทือกเขาที่มีรูปร่างเหมือนผีตาโขน รูปแม่มด ฯลฯ
ซึ่งอันนี้ก็ต้องใช้จินตนาการให้ในการชมกันสักหน่อย
|
|
ภาพเขียนสีโบราณมีให้ชมที่เกาะกาโรส
|
|
|
นอกจากนี้ตามแนวเทือกเขาหินปูนที่เกาะกาโรสยังมีภาพเขียนสีโบราณอายุประมาณ
3,000-5,000 ปี จะพบบริเวณหน้าผาหินและถ้ำต่าง ๆ
ชาวบ้านจะพาเรือลัดเลาะไปชมและชี้ชวนให้ชมภาพเขียนสีโบราณนี้
ที่ดูแล้วก็มีทั้ง ภาพตะขาบยักษ์ ภาพคน ภาพสัตว์
ก็แล้วแต่ว่าเรามองเป็นภาพอะไร ซึ่งถือว่าเป็นภาพเขียนโบราณที่ทรงคุณค่าหาชมได้ยาก
รวมถึงยังมีถ้ำเล็กๆ ให้ได้ปีนป่ายขึ้นไปชมหน้าต่างมนุษญ์ถ้ำ
ที่เป็นโพรงขนาดใหญ่ ให้ได้ไปยืนชมวิวของเกาะกาโรสที่งดงาม
|
|
บรรยากาศทะเลแหวกนักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมมาเที่ยวชม
|
|
|
หลังจากได้นั่งเรือหัวโทงชมธรรมชาติอันน่าพิสมัยที่เกาะกาโรสกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว
“ตะลอนเที่ยว” ก็ขอพาลงเรือสปีดโบดแล่นออกจากฝั่งฝ่าเกลียวคลื่น
สายลม และแสงแดดไปชมความงดงามของท้องทะเลที่แรกกันที่ “ทะเลแหวก” เป็นอันซีนไทยแลนด์ ที่มีความมหัศจรรย์อยู่ที่ เมื่อยามที่น้ำทะเลลดต่ำลง
จะเกิดเป็นแนวสันทรายทอดยาวปรากฏขึ้น
กลายเป็นสะพานทรายทอดยาวให้ได้เดินเชื่อมถึงกันระหว่าง 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ
|
|
เกาะปอดะ มีท้องทะเลสีฟ้าคราม น้ำทะเลสวยใส
|
|
|
ซึ่งถ้าอยากเห็นทะเลแหวกก็ต้องมาให้ถูกเวลาให้ตรงกับช่วงเวลาที่น้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน
จะได้เดินไปบนสันทรายที่ขาวละเอียดนุ่มเท้ามากๆ
มีน้ำทะเลสวยใสให้ได้ลงไปเล่นได้ด้วย
ซึ่งจะมีเรือพานักท่องเที่ยวมาชมทะเลแหวกกันเป็นจำนวนมาก
จนบางทีอาจจะเห็นคนแหวกแทนทะเล เพราะคนเยอะมากจริงๆ
|
|
นักท่องเที่ยวต่างชาติสนุกสนานบนหาดทรายขาวทะเลสวยๆ
ที่เกาะปอดะ
|
|
|
จากทะเลแหวกออกเรือไปเที่ยวกันต่อที่ “เกาะปอดะ”
เป็นเกาะที่มีความสวยงามมาก
มีหาดทรายที่ขาวละเอียดทอดตัวยาวไปตามแนวทิวสนอันร่มรื่น
ยามที่ได้เดินเล่นบนหาดทรายช่างนุ่มเท้ามากๆ น้ำทะเลที่นี่ใสมากๆ
ใสสะอาดเป็นสีเขียวมรกต
|
|
ศาลที่ถ้ำพระนางนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้
|
|
|
เราใช้เวลาเดินเล่นชมวิวและถ่ายรูปเพลินๆ อยู่บนเกาะปอดะสักพัก
ก็ขึ้นเรือออกเดินทางไปยังที่หมายต่อไป มุ่งหน้ามากันที่ “อ่าวพระนาง”
หรืออ่าวถ้ำพระนาง เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวไฮไลท์ของทะเลกระบี่
ที่นี่มีชายหาดที่เงียบสงบ มีหาดทรายขาว และน้ำทะเลก็ใสสะอาดชวนให้มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
ทำกิจกรรมทางทะเลมากมาย จะนอนอาบแดด เล่นน้ำ พายเรือเล่น
หรือจะมาทดสอบพละกำลังและความกล้า ด้วยการปีนหน้าผาที่สูงชัน
ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
|
|
บริเวณถ้ำพระนางมีกิจกรรมปีนหน้าผาให้ได้ทดสอบความกล้า
|
|
|
และที่อ่าวพระนางยังมี “ถ้ำพระนาง” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพกันมาก
เป็นโถงถ้ำเล็กๆ ด้านในมีศาลและมีปลัดขิกจำนวนมาก
ที่ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าหากมาขอพรที่ถ้ำพระนางแล้วสมหวัง
ต้องนำปลัดขิกมาถวายแก้บนทำให้รอบๆ บริเวณศาลมีปลัดขิกรูปร่างแปลกๆ มากมาย
เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก
ที่ได้เห็นกองปลัดขิกจำนวนมากที่ตั้งอยู่ที่ถ้ำพระนางแห่งนี้
|
|
หาดไร่เลย์เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยว
|
|
|
จากอ่าวพระนางเรากลับขึ้นเรืออีกครั้ง แล้วเบนหัวเรือมุ่งหน้ามาที่ “อ่าวไร่เลย์”
หรือ หาดไร่เลย์ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งหาดยอดนิยม
เพราะที่หาดไร่เลย์งดงามไปด้วยทัศนียภาพของท้องทะเลสวยๆ หาดทรายขาวๆ
มีหน้าหินผาสูงเด่นตั้งตระหง่านเรียงราย
ที่อ่าวไร่เลย์มีรีสอร์ทให้บริการนักท่องเที่ยวได้ค้างคืนกันด้วย
จะได้พักผ่อนสัมผัสท้องทะเลและทำกิกรรมทางทะเลกันอย่างเต็มอิ่ม
ซึ่งที่นี่มีกิจกรรมที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมมากก็คือ การปีนผา
จะมีนักปีนผาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาปีนหน้าผาทดสอบความกล้าและความท้าทายกันเป็นจำนวนมาก
เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ปีนผาระดับโลกก็ว่าได้
|
|
ธรรมชาติอันงดงามของท้องทะเลอันดามันที่ลากูน
|
|
|
เราลงเดินเล่นที่อ่าวไร่เลย์สักครู่ ก็ได้เวลาขึ้นเรือกันอีกแล้ว
เพราะยังมีทะเลอันดามันสวยๆ ของกระบี่รอให้ไปชมกันอีก
ซึ่งครั้งนี้เรือแล่นพาเราไปสู่ “ลากูน” หรือ ทะเลใน
เป็นเหมือนสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยหน้าผาสูง
มีปากทางเข้าเป็นเหมือนช่องประตู ซึ่งเรือจะค่อยๆ แล่นเข้าไปสู่ลากูนด้านใน
ได้เห็นทัศนียภาพของทะเลอันดามันที่งดงามจับตา น้ำทะเลสีเขียวใสมากๆ
มองเห็นทรายสีขาวละเอียดที่อยู่ด้านล่าง สามารถลงไปเล่นน้ำได้ด้วย
เพราะน้ำไม่ลึกมาก
“ตะลอนเที่ยว”
แค่ได้แล่นเรือเข้าไปชมความงามของลากูนก็สุขใจแล้ว
และก็แล่นเรือออกมาเพื่อมุ่งหน้าไปยัง “เกาะห้อง” ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เป็นเกาะเล็ก ๆ
ที่เมื่อมองจากทะเลเข้าไปจะเหมือนมีหน้าผาตั้งตระหง่านเป็นช่องทางให้เข้าไปสู่ด้านใน
เป็นเหมือนห้องเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในทะเลอันดามัน
เกาะห้องมีเวิ้งอ่าวสองอ่าวติดกัน
มีเพียงโขดหินกั้นกลาง โอบล้อมด้วยแนวเขาหินปูนและต้นไม้ที่ขึ้นเขียวขจี
มีชายหาดที่มีเม็ดทรายขาวละเอียดเดินนุ่มเท้ามากๆ
และน้ำทะเลที่ช่างสวยใสเป็นสีเขียวมรกต ชวนให้ลงไปแหวกว่ายเล่นน้ำเป็นที่สุด
|
|
บรรยากาศท้องทะเลยามเย็นที่หาดอ่าวนาง
|
|
|
เราเลยไม่รีรอขอกระโดดลงทะเลเล่นน้ำอย่างสนุกสนานสบายใจ
พอเล่นน้ำเหนื่อยก็ขอขึ้นมานั่งอาบแดดบนหาดทรายขาวนุ่มๆ
นั่งดูฝรั่งพายเรือคายัค ดูเด็กๆ เล่นน้ำทะเลกันอย่างเพลิดเพลิน
แล้วก็ได้เดินชมรอบๆ เกาะห้องๆ ชมวิวแบบชิลล์ๆ จนได้เวลาก็กลับขึ้นเรือ
เพื่อมุ่งหน้ากลับฝั่งกันได้แล้ว
เรือพาเรามาขึ้นฝั่ง
และปิดทริปเที่ยวทะเลกระบี่ในครั้งนี้กันที่นี่ “อ่าวนาง” หรือ หาดอ่าวนาง
เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงของเมืองกระบี่
หาดอ่าวนางมีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวกว้าง มีชาดหาดทอดตัวยาวกว่า 6 กม. ให้ได้เดินชมทิวทัศน์แบบเพลินๆ
และที่หาดอ่าวนางยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่โรแมนติกยิ่งนัก
ยามเย็นที่หาดอ่างนาง
แค่เราได้มานั่งมองทะเลสวยๆ ชมพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าจมหายไปในทะเล
ปลดปล่อยใจไปตามอารมณ์แบบสบายๆ ขอบอกเลยว่าช่างเป็นห้วงเวลาแห่งความสุขกายสบายใจ
ที่หากใครอยากจะสัมผัสกับความรู้สึกสนุกสนานเบิกบานใจกับการได้มาท่องทะเลกระบี่อันงดงามแบบนี้บ้าง
บอกได้แค่ว่าคงต้องรีบเก็บกระเป๋า แล้วตีตั๋วมาเยือน “กระบี่” กันด้วยตัวเองแล้วล่ะ
|
|
|
Starlight Travel & Tour ©
459/7 Moo 2, Aonang, Muang Krabi, Thailand 81000
Tel 075 637 634 | Fax 075 637 536 | Emergency call 087 672 9994 | Email KBV.starlight@gmail.com | Let see where we are
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น